น้ำตาลพาลาทีนและการออกกำลังกาย

     ในยุคสมัยที่ทุกคนหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งลู่ วิ่งมาราธอน ไตรกีฬา หรือปั่นจักรยานก็ตาม จะสังเกตุได้จากงานวิ่งที่มีจัดกันแทบทุกเทศกาล หรือจำนวนคนในฟิตเนสที่ล้นหลามจนบางฟิตเนสดูแคบไปถนัดตา  ซึ่งแต่ละคนนั้นล้วนจะมีเป้าหมายที่ต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการล่ารางวัลในการแข่งขันต่าง ๆ การลดน้ำหนักเพื่อให้มีรูปร่างที่สวยงาม หรือการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลไหนก็ตามสิ่งสำคัญสำหรับการออกกำลังกายนั้นก็คือพลังงานที่ร่างกายใช้นั่นเอง ซึ่งมีความสำคัญอย่างไรเราจะมาไขข้อข้องใจนี้ไปด้วยกัน

พลังงานกับการออกกำลังกายสำคัญอย่างไร ?

   การทำงานของร่างกายนั้นก็ไม่ได้ต่างไปจากเครื่องจักรที่เราใช้กันในชีวิตประจำวัน ซึ่งต้องใช้เชื้อเพลิงเพื่อสร้างพลังงานในการทำงาน แต่หากพลังงานหมดเครื่องยนต์ก็จะไม่สามารถทำงานได้ ร่างกายก็เช่นกันหากพลังงานในร่างกายหมด ร่างกายก็จะเริ่มอ่อนล้า และหมดแรงในที่สุดนั่นเอง ซึ่งจะรวมไปถึงการทำงานของระบบต่าง ๆในร่างกาย ดังนั้นหากได้รับพลังงานไม่พอแล้ว ร่างกายอาจได้รับผลเสียได้ในระยะยาว

พลังงานที่ใช้ในการออกกำลังกายมาจากไหน ?

    พลังงานในร่างกายนั้นมาจากอาหารที่เราทานเข้าไปซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ก็คือ คาร์โบไฮเดรตหรือน้ำตาลกลูโคส, โปรตีน และไขมัน แต่แหล่งพลังงานหลักที่ใช้ในร่างกายส่วนใหญ่คือ น้ำตาลกลูโคส ซึ่งในร่างกายเราจะมีการสะสมปริมาณหนึ่ง โดยร่างกายจะรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยเร็ว หากพลังงานในส่วนนี้หมดลงจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราจึงต้องหาเครื่องดื่มหวานๆ มาทานก่อน, ระหว่าง หรือหลังออกกำลังกาย เพื่อให้เราสามารถออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่าง ๆได้นานขึ้น

หากต้องการให้ออกกำลังกายได้นานมากขึ้นต้องทำอย่างไร ?

   การจะทำให้ออกกำลังกายได้ยาวนานยิ่งขึ้นนั้นเคล็ดลับที่ง่ายมากนั่นก็คือ ทำให้พลังงานในร่างกายไม่หมด ซึ่งตัวช่วยที่จะช่วยเราได้นั้นจะเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานได้อย่างต่อเนื่อง เช่น ข้าวไม่ขัดสี ธัญพืช เป็นต้น แต่อาหารเหล่านั้นจำเป็นต้องใช้เวลาในการย่อยซึ่งไม่สามารถใช้ได้ในขณะทำกิจกรรม จึงขอแนะนำเป็นน้ำตาลพาลาทีน ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ทำให้ค่อยๆปลดปล่อยพลังงานให้ร่างกายอย่างต่อเนื่องจึงทำให้พลังงานในร่างกายไม่หมดและออกกำลังกายได้นานมากยิ่งขึ้น มาถึงจุดนี้หลายๆคนอาจจะมีคำถามว่าแล้วน้ำตาลทั่วไปล่ะใช้ไม่ได้หรือ? คำตอบคือ ได้เหมือนกัน แต่การให้พลังงานของน้ำตาลทั่วไปนั้นจะสั้นมากจึงทำให้เราสดชื่นขึ้นได้แค่ช่วงสั้นๆ แตกต่างจากน้ำตาลพาลาทีนที่ให้พลังงานยาวนานจึงหมดห่วงได้ในช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ

…….   แล้วทำไมเราไม่ลองเปลี่ยนจากน้ำตาลธรรมดาที่ต้องทานบ่อย ๆมาเป็นน้ำตาลพาลาทีนกันดูล่ะ …..